เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต กับ ระบบ ERP(2)

          การที่ระบบ  ERP  สามารถรวมระบบงานต่างๆ เข้าเป็นระบบเดียวกันได้นั้นเป็นจุดเด่นของระบบงานนี้ ทำให้ระบบ ERP เป็นระบบที่มีความจำเป็นต่อองค์กร  โดยทั่วไปการดำเนินงานขององค์กรทุกขนาดจะประกอบไปด้วย งาน 4 ส่วนที่สำคัญ ดังนี้

• งานบัญชีและการเงิน
• งานผลิตและบริหารวัสดุ
• งานตลาดและการขาย
• งานทรัพยากรมนุษย์

สิ่งจำเป็นที่สุดก่อนการนำ ERP มาใช้คือ การเข้าใจสาระสำคัญของแนวคิด ERP ของทีมผู้บริหาร ผู้จัดการ ทุกคนที่มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรที่วางแผนจะนำ ERP มาใช้ โดยแก่นของ ERP คือ “การสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อส่งมอบให้แก่ลูกค้า” ปัจจุบันมีการนำ ERP Package มาใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างและบริหารงาน  โดยรวมระบบงานทุกอย่างไว้ในฐานข้อมูลเดียวกัน  

          โดยทั่วไประบบ ERP จะจัดเตรียม Software module สำหรับงานหลักของธุรกิจต่าง ๆ ไว้ดังนี้

1. ระบบบัญชี

1.1 บัญชีการเงิน – General, Account Receivable, Account Payable, Credit/Debit, Fixed Asset, Financial, Consolidated Accounts, Payroll, Currency Control(multi-currency)

1.2  บัญชีบริหาร – Budget Control, Cost Control, Profit Control, Profitability Analysis, ABC Cost  Control, Management Analysis, Business Plan

2. ระบบการผลิต

2.1 ควบคุมการผลิต – Bill of Material, Production Control, MRP, Scheduling, Production Cost Control, Production Operation Control, Quality Control, Equipment Control, Multi-location Production Supporting  System

2.2 ควบคุมสินค้าคงคลัง – Receipt/Shipment Control, Parts Supply Control, Raw Material, Stocktaking

2.3 การออกแบบ – Technical Information Control, Parts Structure Control, Drawing Control, Design Revision  Support System

2.4 การจัดซื้อ – Outsourcing/Purchasing, Procurement, Acceptance, การคืนสินค้า, ใบเสนอราคา, ใบสัญญา

2.5 ควบคุมโครงการ –  Budget, Planning, Project Control

  

3. ระบบบริหารการขาย –  Demand/Sales Forecasting , Purchase Order, Sales Planning/Analysis, Customer Management, Inquiry Management, Quotation Management, Shipment Control, Marketing, Sale Agreement, Sale Support, Invoice/Sales Control

4. Logistics –  Logistic Requirement Planning , Shipment/Transport Control, Export/Import Control, Warehouse management, Logistics Support

5. ระบบการบำรุงรักษา –Equipment Management, Maintenance Control, Maintenance Planning

6. ระบบบริหารทรัพยากรบุคคล –  Personnel Management, Labor Management, Work Record Evaluation, Employment, Training & HRD, Payroll, Welfare Management

 

เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต กับ ระบบ ERP(1)

เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตประวันของมนุษย์ จนกลายเป็นส่วนเสริมในเรื่องของปัจจัยพื้นฐาน จึงทำให้การติดต่อสื่อสารกันได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่แห่งใดเทคโนโลยีที่กำลังเป็นที่นิยมใช้และแพร่หลายในขณะนี้คือการนำเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต (Internet) มาประยุกต์ใช้กับงานหลายๆ ด้าน ซึ่งสามารถใช้ได้กับทุกระบบปฎิบัติการ ปัจจุบันจึงมีการนำอินเตอร์เน็ตมาใช้ในงานการจัดการองค์กรอย่างระบบ ERP ที่หลายๆ องค์กรหรือบริษัทรู้จักกันดี

ERP (Enterprise Resource Planning) คือ การวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กรโดยรวม เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดของทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กร การนำ ERP มาใช้เป็นสิ่งที่คาดหวังว่าจะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการปฏิรูปองค์กร แค่ก็ต้องเข้าใจว่า ขีดจำกัดความสามารถการแข่งขันในองค์กรเกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งความสามารถในการแข่งขันหรือความเข้มแข็งขององค์กรประกอบด้วย 3 ส่วน ดังนี้

          -          ความเข้มแข็งของสินค้าหรือบริการ 
          -          ความเข้มแข็งด้านกระบวนการทางธุรกิจ 
          -          ความเข้มแข็งด้านการพัฒนาสินค้าและบริการแบบใหม่ๆ รวมทั้งความสามารถในการสร้างกระบวนการทางธุรกิจแบบใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพ

          ประสิทธิภาพของ ERP จะช่วยให้การเชื่อมโยงระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง การขายและการผลิต จึงทำให้การทำงานระหว่างแต่ละแผนกเป็นไปได้อย่างง่ายดาย และทำให้สามารถบริหารองค์กรโดยรวมเพื่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด

การได้ระบบซอฟท์แวร์ที่ดีมาใช้งานในบริษัทถือว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อบริษัทและองค์กรของเรา แต่การที่จะนำซอฟท์แวร์ที่ดีไปใช้ให้ประสบผลสำเร็จได้นั้น จะต้องมีความเข้าใจและความต้องการ ของบริษัทที่แท้จริง  ต้องมีการประสานงานระหว่างระบบ ERP กับกลยุทธ์, ทรัพยากร และกระบวนการของบริษัทกันได้อย่างลงตัว  ดังนั้นการเลือกที่ปรึกษาการให้คำแนะนำระบบมีส่วนที่สำคัญมาก ไม่เพียงแต่ในเรื่องของเทคโนโลยีเท่านั้นที่เราต้องการจากที่ปรึกษา แต่ยังรวมไปถึงการให้คำแนะนำในเรื่องของการปรับปรุงกระบวนการ และช่วยกำหนดกลยุทธ์ของธุรกิจที่สอดคล้องกับระบบ ERP ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาจำเป็นที่จะต้องมีในบริษัท โดยเฉพาะสำหรับบริษัทที่ยังไม่มีทรัพยากรภายในที่มีความสามารถเพียงพอที่ จะนำระบบ ERP ไปใช้เองได้